SIP-DIP-DINE คอนเส็ปต์ใหม่ล่าสุดบน Space เก๋ที่เราคุ้นเคย ณ Sundance Dayclub Hua Hin เปิดประสบการณ์บีชคลับริมทะเลเต็มรูปแบบแห่งแรกของหัวหินวันที่ 2 กรกฎาคมนี้
เพื่อนๆ #hopsters ที่สนใจสามารถซื้อ Day Pass มูลค่า 2,000 บาท เพื่อเป็นเครดิตเข้าใช้สถานที่และแลกซื้ออาหารเครื่องดื่มได้เต็มจำนวนตั้งแต่เที่ยงวันจนถึง 4 ทุ่มกันไปเลย หากอยากเพิ่มความเป็นส่วนตัวและสิทธิพิเศษแบบพรีเมี่ยมก็สามารถอัพ Level สู่โซน VIP หรือจองห้องพักนอนค้างคืนด้วย จะได้ปาร์ตี้ไปยาวๆแบบไม่ต้องกังวล
ทาง Sundance แจ้งว่าช่วงนี้เปิดเฉพาะวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ จันทร์ และรับลูกค้าที่จองล่วงหน้าผ่านไลน์ @sundancedayclub เท่านั้นนะครับ ส่วนรายละเอียดอื่นๆถ้าอยากรู้ ก็ตามมาในโพสต์เลยครับ
Vlog พาเที่ยวที่ Sundance Dayclub Hua Hin
The Arrival
ความสวยเท่ของสถาปัตยกรรมเป็นสิ่งแรกที่เราสัมผัสได้เมื่อมาถึง ยิ่งพอได้รับการอัพเกรดเป็น Sundance Dayclub รายละเอียดที่ปรับเปลี่ยนเข้ามาก็ยิ่งทำให้ความเท่ดูหรูขึ้นโดยแทบไม่ต้องพยายามใดๆ ที่นี่มีที่จอดรถใต้อาคารสะดวกสบาย และกำลังสร้างที่จอดรถกลางแจ้งเพิ่มเติมเพื่อเตรียมรองรับลูกค้าในอนาคตด้วยครับ
เมื่อทีมงานของทาง Sundance มาต้อนรับเราถึงรถด้วยความยิ้มแย้มแจ่มใสและเป็นกันเอง ก็ยิ่งทำให้ First Impression ของเราดีมากขึ้นไปอีก จากนั้นเราก็ถูกพาไปยัง Lobby เพื่อรับเวลคัมดริ้งค์ ซึ่งที่นี่มีเป็นเมนูมาให้เลือกได้ตามความชอบ ต่างจากทั่วๆไปที่จะเสิร์ฟเมนูเดียวที่กำหนดมาแล้ว
เราประทับใจเมนูกาแฟที่ใช้เมล็ดจาก Brave หนึ่งในโรงคั่วโปรดของเรา พลันรู้สึกเสียดายที่เรามาถึงช้าไปหน่อยจนเลยเวลาดื่มกาแฟมาแล้ว ไม่งั้นถ้าฝืนดื่มไปคงต้องนอนใจสั่นทั้งคืน จึงขอเลือกเป็นน้ำผลไม้สดชื่นๆคลายร้อนแทน
เช็คอินเสร็จแล้ว เข้าห้องพักกันเลย ขอเกริ่นก่อนว่าห้องพักที่นี่เป็น Option เสริม เพื่อบริการสำหรับลูกค้าที่อยากเปิดห้องพักส่วนตัวเพื่อความสะดวกเท่านั้น เราจึงไม่ได้เน้นรีวิวห้องมาก แต่ก็อย่างที่เห็นห้องพักที่นี่ขนาดกำลังดี ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป ตกแต่งโทน Neutral สะอาดตา แสงสวย ถ่ายรูปขึ้นเลยครับ ห้องที่เราเข้าพักเป็นแบบ Classic For Two สะดวกสบายได้มาตรฐานสำหรับ 2 คนครับ มีทั้งอ่างอาบน้ำ และ Shower ในห้องเดียว
เพิ่มเติมอีกนิดหากเราซื้อ Day Pass เข้ามาแล้ว สนใจจองห้องพัก ให้ลองถามทางพนักงานเพิ่มเติมนะครับ แว่วๆมาว่าจะได้รับส่วนลดห้องพักเพิ่ม 30% และยังยืดอายุ Day Pass ของเราให้ใช้ได้ถึง 2 วัน (ในวงเงินที่เหลือจากวันแรก) อีกด้วย
ปล่อยใจให้เริงระบำไปกับแสงตะวันที่ Sundance Dayclub
สีฟ้า-น้ำเงินของมวลน้ำทั้งที่อยู่ในสระและในท้องทะเลที่ไกลออกไป เมื่ออยู่คู่กับร่มสีขาว และ Day Bed สีอ่อนๆแล้ว ให้อารมณ์ผ่อนคลายที่โก้หรูง่ายมาก บริเวณสระริมทะเลตรงนี้คือใจความสำคัญทั้งหมดของ Dayclub แห่งนี้ ซึ่งเราขอแบ่งออกเป็น 3 โซนหลักนะครับ
หากเราหันหน้าออกไปทางทะเลด้านซ้ายมือสุดจะเป็นโซน Sunrise ซึ่งจะเสิร์ฟอาหารไทยซึ่งเน้นใช้วัตถุดิบท้องถิ่นสดๆและปรุงให้ได้รสชาติอร่อยถึงเครื่องแบบไม่ประณีประนอมให้รำคาญใจ รวมถึง Cocktail อร่อยสดชื่นอารมณ์ทะเลเขตร้อนที่เน้นส่วนผสมเป็นรัม เตกีล่า ว็อดก้า รวมไปถึงสมุนไพรไทยที่ดื่มง่าย เอาไว้ตกเย็นเราจะพาไปดินเนอร์กันที่ Sunrise กันนะครับ
โซนตรงกลางนั้นเป็นโซนสระว่ายน้ำหลักที่ยาวถึง 40 เมตร เทควิวทะเลแบบ Panorama ไปเลย เราชอบการดีไซน์แบ่งกั้นโซนในสระให้เป็นมุมย่อยๆ เพิ่มอารมณ์ที่หลากหลายและความเป็นส่วนตัวของนักแช่น้ำ ตรงนี้มี Sunken Pool Bar ที่เราสามารถออร์เดอร์เครื่องดื่มได้จากในสระเลย รวมถึงมีเซ็ตโต๊ะเก้าอี้ในสระเพื่อให้นั่งจิบเครื่องดื่มสวยๆด้วย
รอบๆสระนั้นรายล้อมไปด้วย Daybed และที่นั่งหลายแบบ โซนนี้คือโซนหลักที่ลูกค้าส่วนใหญ่จะมาจับจองเป็นฐานทัพสำหรับการพักผ่อน อ้อ! ลืมบอกไปว่าเรือนกระจกมินิมอลที่อยู่ในโซนนี้นั้น เค้าก็เตรียมการไว้ว่าจะเปิดให้บริการ Afternoon Tea และเปิดแอร์เย็นฉ่ำรอรับคนที่ชาร์จพลังแดดจากภายนอกจนเต็มอิ่มเรียบร้อยแล้ว
แทรกนิดนึงครับ อยากบอกว่าน้ำหอม Eden-Roc กลิ่นใหม่ล่าสุดจาก Dior ที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมาหอมมากกกก เราพกมาใช้ที่นี่ด้วย เหมาะกับบรรยากาศริมทะเลแบบนี้สุดๆครับ ไว้เราจะเอามา Unbox และรีวิวกันให้ดูนะครับ
ฝั่ง Sunset: Pool Bar Grill และ VIP Zone
โซนขวาสุดเมื่อเราหันหน้าออกไปทางทะเลมีชื่อว่า Sunset โซนนี้จะมีสระแยกพิเศษอีก 1 สระ เพราะเป็นโซน VIP ด้วยครับ มีเซ็ต Daybed พร้อมที่นั่งพักผ่อนแบบพิเศษเพียง 3 เซ็ต แต่ละเซ็ตรองรับได้ 6-8 คน หากหารเฉลี่ยราคา 30,000 บาท/เซ็ต ก็ตกคนละประมาณ 3,750-5,000 บาท เมื่อเปรียบเทียบกับความเป็นส่วนตัวที่เพิ่มขึ้น นำไปเป็นเครดิตแลกซื้ออาหารและเครื่องดื่มซึ่งมีตัวเลือกที่พรีเมี่ยมและหาทานยากมากยิ่งขึ้น รวมไปจนถึงระยะเวลาที่สามารถใช้ Day Pass ถึง 10 ชั่วโมง (ถ้าจองห้องพักด้วยก็ขยายไปถึงวันรุ่งขึ้นด้วย) ก็ถือว่าคุ้มค่ามากทีเดียวครับ
นอกจากสระที่แยกออกมาแล้ว โซน Sunset ยังมีบาร์เครื่องดื่มพรีเมี่ยม และ Pool Bar Grill ครัวตะวันตกที่เน้นเสิร์ฟอาหารทะเลแบบยุโรปที่อร่อยเลิศไม่แพ้ฝั่งครัวไทยเลยครับ เราจะพาไปทานในมื้อกลางวันกันนะครับ
พอมี Nachos มาวางบนโต๊ะแล้ว บางแว่บก็แอบว๊าปทิพย์ไปอยู่ Cancun ที่ Mexico เหมือนกันนะครับ แต่พอหันไปเจอน้องหอยนางรมกับซอส Red Wine Vinegar แล้ว ก็แอบจินตนาการว่าอยู่ St.Tropez ไปอีก กลับมาจิบเครื่องดื่มที่หัวหินก่อนนนนนนนนนนน
เราเลือก Skyline (320.-) รสเปรี้ยวอมหวานด้วย Bourbon, Passion Fruit, น้ำ Lemon และอื่นๆ กับอีกแก้วเป็นแนวฮาวายไปเลยคือ Aloha, Beaches (320.-) ซึ่งมีส่วนผสมของ White Rum, Malibu น้ำสับปะรด น้ำเชื่อมใบเตย กะทิ และอีกมากมาย
อร่อยอย่างไทย รสชาติ Uncompromised ที่ Sunrise
มาตามสัญญาครับ พามาทานดินเนอร์อาหารทะเลสดๆรสถึงเครื่องกันครับ อาหารที่เราทานในวันนี้มีอะไรบ้างไปดูกันเลยครับ ส่วนเรื่องรสชาติขอสรุปง่ายๆทุกจานเลยว่าอร่อยมากจริงๆ ให้รูปบรรยายแทนแล้วกันนะครับ เริ่มกันด้วยขนมจีนน้ำยาปูทอดมันปลาอินทรีย์ (650.-) เป็นเมนูที่ออกแบบมาให้ทานคู่กัน 2 จานเลยครับ น้ำยาเข้มข้น เนื้อปูหวาน ปริมาณเยอะครับ จานที่ 2 กุ้งคั่วพริกเกลือ (340.-) กุ้งสด กระเทียมกรอบ อร่อยง่ายๆเลยครับ
ต่อมาเป็นหมึกต้มมะนาวน้ำดำ (380.-) จานนี้ปกติเราเคยกินแบบปรุงรสหวานเค็มธรรมดา แต่ที่นี่บีบมะนาวใส่ลงไปด้วย ให้รสชาติเปรี้ยวแซ่บน่าสนใจคล้ายๆหมึกนึ่งมะนาวในอีกมิตินึง และจานสุดท้ายซึ่งเราคิดว่าเป็นทีเด็ดของมื้อเลยก็ว่าได้ครับก็คือ ส้มตำปูไข่ดอง (650.-) แน่นอนว่าไข่ปูสีส้มเข้มตรงฝากระดองนั้นทำให้เราไม่ได้โฟกัสที่ส้มตำเลยครับ จานนี้เสิร์ฟมาพร้อมน้ำจิ้มซีอิ๊วกับพริกขี้หนู แอบฟิวชั่นเกาหลีเบาๆ แต่เราไม่มายด์เลยจริงๆครับ ขูดไข่ปูคลุกข้าวราดซีอิ๊วฟินพุงมากครับ
เราจบมื้อด้วยของหวานที่ได้ Inspo มาจากข้าวเหนียวมะม่วง แต่ที่นี่ปรับให้น่าสนใจมากยิ่งขึ้นเป็นมะม่วงสาคูไอศกรีมกะทิสด ซึ่งหลังจากมื้อหนักขนาดนี้ เราคงทานข้าวเหนียวต่อไม่ไหว การปรับมาเป็นสาคูและไอศกรีมก็ช่วยให้เบาลงเยอะเหมือนกันครับ
อุ้ย! ลืมพูดถึงเครื่องดื่มเลยครับ เราสั่ง A Plum Job (320.-) ซึ่งเป็นส่วนผสมของจิน น้ำบ๊วย เลม่อน และโทนิค เปรี้ยวหวานชื่นใจ และอีกแก้วเป็น Midsummer (320.-) ที่เน้นรสชาติหอมหวานแบบทรอปิคอลแต่มีรสเมล่อนของ Midori เข้ามาเสริมความอร่อยด้วย
หลังจากดินเนอร์ เราก็ตัดสินใจออกไปเดินเล่นในตลาดหัวหินเหมือนกับแทบทุกครั้งที่มาเที่ยว จากตลาดหัวหินที่เคยครึกครื้นมากๆ คราวนี้เรารู้สึกสลดใจแทนผู้ประกอบการหลายๆท่าน เพราะตลาดค่อนข้างเงียบเหงา หลายร้านก็ต้องปิดตัวลงไป เดินได้แป๊บเดียวก็เลยตัดสินใจกลับห้องดีกว่า
ตอนแรกตั้งใจว่าวันนี้จะไม่แช่อ่าง แต่พอกลับห้องเร็วก็เลยมีเวลา และเห็นน้องอ่างนอนรออยู่ข้างเตียงก็เลยอดไม่ได้จริงๆ ขอลงซักหน่อยแล้วกันนะคับ 5555
Breakfast at Sundance
เราได้รับตารางอาหารเช้ามาให้เลือกตั้งแต่ตอนเช็คอินเมื่อวาน มีให้เลือกหลากหลายจนติ๊กแทบไม่ถูกเลย ทั้งแบบเอเชียและฝรั่ง คาวหวานมีครบเลยครับ เราจึงเลือกเป็นข้าวต้มแห้งทะเลแบบไทยๆ 1 เช็ต มาพร้อมกับน้ำจิ้มรสแซ่บตัดเลี่ยนอร่อยมาก มีเครื่องเคียงเป็นปาท่องโก๋กับผลไม้สดด้วย
อีกเช็ตเป็น Open Toast ซึ่งมี Ingredient List ให้เราเลือกประกอบเองเยอะมาก เราเลือกเป็น Sourdough, Smashed Avocado, Rocket, Australian Roast Beef และ Poached Egg ครับ อร่อยมากเช่นกัน ตบท้ายด้วยโยเกิร์ตผลไม้ชื่นใจ และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือกาแฟจาก Brave ไม่อิ่มก็ให้รู้ไปครับ 555
เอาเข้าจริงๆเราชอบอาหารเช้าแบบนี้มากกว่าแบบบุฟเฟต์นะครับ เพราะเรารู้สึกว่าเราได้คุณภาพอาหารที่ดีกว่าทั้งในเรื่องวัตถุดิบและการปรุงแบบสดใหม่
กินอิ่มแล้ว เราไปเดินเล่นถ่ายรูปใน Sundance Dayclub กันครับ จะได้ช่วยให้อาหารย่อยด้วย มุมถ่ายรูปไม่ใช่สิ่งที่ขาดแคลนเลย และที่สำคัญก็คือแสงแดดเวลาทอดผ่านอาคารและเงาไม้นั้นทำให้รูปออกมาสวยงามมากครับ
มีมุมให้ถ่ายรูปเยอะจริงๆครับ ระหว่างที่เดินสำรวจไปรอบๆ เราแอบเห็นห้องเด็กเล่นที่ชื่อ Sunchild และ Facilities เสริมอื่นๆที่ยังสร้างไม่เสร็จดี เมื่อเสร็จแล้วน่าจะตอบโจทย์สำหรับลูกค้ากลุ่ม Family ด้วยครับ
จุ่มน้ำ-ระบำแดด
ที่ Sundance นี่แดดดีจริงๆครับ ถ้าเป็นเมื่อ 10 ปีก่อนสมัยที่คนยังกลัวแดดกันมากๆ และครีมไวท์เทนนิ่งขายดีเป็นเทน้ำเทท่า เราคงจะไม่กล้าลงสระท้าแดดแบบนี้แน่ๆ แต่นี่คือปี 2021 อะไรต่างๆก็เปลี่ยนไป เราสนุกกับการได้ว่ายน้ำป๋อมแป๋ม ปล่อยใจไปกับวิวสวยๆและเครื่องดื่มเย็นๆ จนได้ผิวสีแทนสุขภาพดีเป็นรางวัล (แต่ก็อย่าลืมทาครีมกันแดดด้วยนะครับ)
ทริปนี้เราพกเครื่องประทินผิวของ Baum แบรนด์รักษ์โลกใหม่ล่าสุดจากเครือ Shiseido มาด้วย สั่งตรงมาจากญี่ปุ่น เพราะในไทยยังไม่มีขายครับ ถ้าอยากให้รีวิวก็คอมเม้นท์ทิ้งกันไว้ได้เลยครับ
จากโพสต์ก่อนๆมีคนแอบถามมาว่าแว่นตากันแดดของเรายี่ห้ออะไร จริงๆมีหลายแบรนด์เลยครับ แต่เราถูกใจ Ermenegildo Zegna จาก Italy เป็นพิเศษ ซื้อมาหลายแบบ และพกไปด้วยแทบทุกทริปเลยครับ เพราะดีไซน์สวยคลาสสิค แมทช์ง่าย ไม่เอะอะ แถมใช้เลนส์ Carl Zeiss ที่คุณภาพดีสุดๆเลย Ermenegildo Zegna แม้เป็นแบรนด์ Luxury สำหรับผู้ชายที่เก่าแก่เกิน 100 ปี แต่หลังๆมานี้น่าจับตามากครับ โดยเฉพาะ Fashion Show ช่วงที่ผ่านมา แต่ละโชว์นี่ดีงามล้ำสมัยเหลือเกินครับ
Lunch ที่ Sunset: Pool Bar Grill ก่อนกลับ
ก่อนกลับกทม.เราขอเสพความประทับใจสุดท้ายแบบฝรั่งๆกันซักนิดนะครับ มื้อนี้เรามูฟมาทานฝั่ง Sunset อร่อยไม่แพ้มื้อดินเนอร์เมื่อคืนเลย แต่เอาจริงๆก็เทียบกันไม่ได้นะครับ เพราะให้อารมณ์คนละซีกโลก
จานแรก Mussels in Sour Beer (450.-) หอยแมลงภู่ฝรั่งเนื้อจะนุ่มกว่าของไทยนะครับ นำมาอบเบียร์ อร่อยเหมือนที่เบลเยี่ยมเลยครับ
Spaghetti alla Puttanesca ตัวซอสปรุงจากมะเขือเทศ ปลาแอนโชวี่ส์ มะกอก เคปเปอร์ส์ รสชาติจะออกเค็มๆเปรี้ยวๆหมักๆหน่อยครับ เราชอบนะครับ แต่บางคนที่ไม่คุ้นอาจต้องใช้เวลาปรับนิดนึง
Paprika-Spiced Prawn Salad จานนี้ทานง่าย อร่อยด้วยครับ ช่วยตัดเลี่ยนได้ดีมากเลย
Baracuda Ratatouille ปลาบาราคูด้าแปลเป็นไทยว่าปลาสาก แต่เนื้อไม่มีความสากเลยครับ ขาวนุ่มมาก เชฟย่างให้หนังกรอบกำลังดี วางบนราตาทูอีย์ เมนูผักสุดคลาสสิคของฝรั่งเศสที่ถูกทำให้โด่งดั่งผ่านแอนิเมชั่นของ Pixar
Beef Cheek with Grilled Asparagus & Sauteed Mushroom ถ้าให้เดา เนื้อแก้มวัวในจานนี้น่าจะตุ๋นด้วยไวน์แดงนะครับ ถ้าผิดขออภัยด้วยครับ แต่ที่ไม่ผิดชัวร์ๆคือนุ่มอร่อยมากกกก
มื้อกลางวันนี้อากาศค่อนข้างร้อน เราจึงเลือก Cool As Cucumber ค็อกเทลฤทธิ์เย็นมาช่วยดับร้อนซะหน่อย อร่อย ดื่มง่ายเช่นเคยครับ อีกแก้วขอสนุกๆก็เลยเลือก Shell Yeah! ซึ่งมีหอยนางรมเป็นแรงบันดาลใจมีส่วนผสมของ Vodka และ Oyster Liqour แถมเสิร์ฟกับหอยนางรมสดด้วย แต่แปลกแฮะดื่มแล้วไม่คาวเลยกลับสดชื่นซะด้วยซ้ำ
ของหวานมื้อนี้เป็น Millefeuille เบอร์รี่สีแดงสวยงาม และ Chocolate Bundt Cake เสิร์ฟพร้อมไอศกรีมวนิลา
ร้านชายามบ่าย
จะว่าไปเจ้า Glass House มินิมอลแห่งนี้อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของ Concept ทั้งหมดของ Sundance Dayclub นี่เลยก็ได้ เพราะนี่คือ Sundance Lounge ร้านน้ำชาในตำนานที่ให้บริการมาตั้งแต่สถานที่แห่งนี้ยังใช้ชื่อเดิม วันนี้เรือนน้ำชาแห่งนี้กำลังได้รับการปรับปรุงใหม่เพื่อเตรียมรับลูกค้าที่จะกลับมาเยี่ยมเยียนกันอีกครั้ง เราขออนุญาตพาเพื่อนๆเข้าไปแอบส่องดูข้างในกันก่อนใครนะครับ
บรรยากาศด้านในสวยวินเทจด้วยกระจกสีชา รู้สึกเหมือนอยู่ในคาเฟ่เก๋ๆริมทะเลในยุโรปแถว French Riviera หรือไม่ก็แถบ Almafi Coast เลยครับ ที่สำคัญคือเปิดแอร์เย็นฉ่ำ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการหลบไอแดดจากด้านนอกมากเลยครับ
สรุปความประทับใจ
สถานที่ดีไซน์งดงาม แบรนดิ้งโดดเด่น อาหารอร่อย(มาก) บริการน่าประทับใจ (ถามหาห้องน้ำก็พาไปถึงที่เลยครับ) สำหรับราคาเริ่มต้น 2,000 บาท/คน จะคุ้มมากสำหรับคนที่ต้องการใช้เวลากับการปล่อยอารมณ์พักผ่อนจริงๆครับ และน่าจะไม่เหมาะกับสายตะลอนเที่ยวหรือเก็บแต้มเช็คอินเท่าไหร่นัก เพราะอาจจะใช้เวลายังไม่ทันคุ้มค่ากับราคาที่ต้องจ่าย
เราชื่นชมผู้ประกอบการที่เปี่ยมด้วยความคิดสร้างสรรค์ สามารถนำจุดเด่นของตัวเองมาพลิกแพลง สร้างเป็นโอกาสและประสบการณ์ใหม่ๆให้ลูกค้าได้สัมผัสและเอ็นจอย ที่ Sundance Dayclub แห่งนี้เราสัมผัสได้ถึง Passion และกระบวนการคิดออกแบบที่ละเอียดรอบคอบของทีมงานที่อยู่เบื้องหลังได้อย่างชัดเจน ในฐานะผู้เข้าใช้บริการต้องบอกว่าประทับใจมากครับ ไม่ใช่เฉพาะแค่สถานที่ที่สวยงาม หรืออาหารอร่อยๆ แต่สิ่งที่เราประทับใจที่สุดคือ "คน" ผู้เป็นจิตวิญญาณขับเคลื่อนให้สถานที่แห่งนี้มีชีวิต ต้องขอขอบคุณทีมงาน Sundance Dayclub อีกครั้งครับที่ดูแลเราเป็นอย่างดี
댓글