Aesop, Welcome Back To Thailand!
เป็นเวลาพักใหญ่ๆเลยที่แฟนๆ Aesop (จริงๆอ่านว่า “อีสป” แต่ในไทยใช้ “เอสอป”) ในไทยได้แต่คิดถึงผลิตภัณฑ์คุณภาพและกลิ่นหอมธรรมชาติอันเป็นเอกลักษณ์ แต่ไม่มีหน้าร้านให้ซื้อ ข่าวดีก็คือวันนี้ Aesop กลับมาแล้วครับ และครั้งนี้แบรนด์ก็มาเองโดยตรงแบบไม่ผ่านตัวแทนจัดจำหน่ายใดๆ เปิดตัวจริงจังด้วยหน้าร้าน Signature Store แบบ Stand Alone นอกห้างหนึ่งเดียวใน South East Asia ณ ทองหล่อ ซอย 13
งานออกแบบ Interior ของร้านจะดีงามขนาดไหน เราขออาสาพาเพื่อนๆไปชมบรรยากาศกันก่อนใครเลยครับ
เพื่อสะท้อนถึงอัตลักษณ์ไทยให้สมกับความเป็นร้านซิกเนเจอร์ร้านแรกในประเทศ Aesop จึงมอบหมายให้ Sher Maker สตูดิโอสถาปนิกชาวไทยซึ่ง Based อยู่ที่เชียงใหม่เข้ามาดูแลงานออกแบบทั้งหมด ไม้สักเก่าที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว และหินแกรไนต์ที่ใช้ในการผลิตครกแบบดั้งเดิม จึงถูกเลือกมาให้เป็นตัวแทนในการถ่ายทอดวิถีชีวิตแบบพื้นถิ่น ภายใต้ความทันสมัยทว่าอบอุ่นตามแบบฉบับของ Aesop
พื้นที่ของร้านนั้นแบ่งออกเป็น 2 โซน คือ โซนหน้าร้านหลัก และ “ห้องฝาไหล” ซึ่งเป็นโซนเครื่องหอม เราแอบได้ยินมาว่าอาจจะมีเพิ่มโซนที่ 3 เป็นห้องทรีตเม้นต์ในอนาคตด้วย
ตลอดแนวผนังฝั่งขวา (เมื่อหันหน้าเข้าร้าน) ในโซนหน้าร้านหลักนั้นเรียงรายไปด้วยขวดสีอำพัน บรรจุภัณฑ์ที่เป็นภาพจำของ Aesop ซึ่งครั้งนี้มีสินค้ามาครบหมดตั้งแต่ผมจรดเท้า รวมถึงผลิตภัณฑ์สำหรับบ้านด้วย เซ็นเตอร์พีซของโซนนี้ก็คืออ่างล้างมือทรงสี่เหลี่ยมทำจากหินแกรไนต์ที่ใช้ทำครก ไม่ได้มาแค่ 1 แต่มาถึง 4 อ่างใหญ่สำหรับทดลองผลิตภัณฑ์ต่างๆ ซึ่งทาง Aesop ก็จัดของมาให้ลองกันได้แบบแน่นโต๊ะเลยครับ ส่วนตัวโต๊ะนั้นก็ทำจากไม้สักเก่าที่เต็มไปด้วยเรื่องราวและใช้เทคนิคตอกลิ่มให้ขัดยึดกันตามวิธีพื้นบ้านภาคเหนือ
สำหรับรูปแบบของอ่างล้างมือตรงกลางร้านนี้ก็เป็นการหยิบยืมไอเดียมาจาก “กระบะดิน” ซึ่งใช้ในการก่อกองไฟในค่ำคืนที่หนาวเย็นแถบภาคเหนือเช่นกัน กระบะดินจึงถือเป็นจุดหลอมรวมให้ผู้คนได้มานั่งล้อมและโอภาปราศรัยกัน ถัดไปที่ผนังฝั่งซ้ายก็เป็นมุมซิงค์ที่จำลองมาให้ได้ฟีลแบบห้องน้ำเท่ๆในบ้านเพื่อให้ลูกค้าได้ประสบการณ์แบบ Immersive ในการทดลองสินค้า
มาถึงโซนที่ 2 คือ “ห้องฝาไหล“ ที่มียศเป็น “Sensorium” ห้องเครื่องหอม Aesop แห่งที่ 2 ในโลกถัดจากสาขา Pitt Street ที่ซิดนีย์ ออสเตรเลีย ที่เรียกว่าห้องฝาไหลก็เพราะตัวผนังนั้นได้แรงบันดาลใจมาจากผนังบ้านในภาคเหนือที่มีการตีแผ่นไม้แนวตั้งสลับกับการเว้นช่องให้แสงเข้าโดยซ้อนผนังแบบเดียวกันนี้เป็น 2 ชั้น และสามารถเลื่อนชั้นในไปมาเพื่อปรับทิศทางแสงได้
สิ่งที่โดดเด่นที่สุดในโซนนี้ก็คือ Fragrance Armoire ตู้น้ำหอม Eaux de Parfum ที่เปิดพาเราไปสู่มิติและสถานที่ต่างๆตามที่น้ำหอมแต่ละกลิ่นถูกดีไซน์มา นอกจากนี้ยังมีเทียนหอม แชมพูอาบน้ำสัตว์เลี้ยง น้ำยาดับกลิ่นอึ Post-Poo Drops ตัวดังของแบรนด์ รวมถึงธูปหอมที่ผลิตโดยโรงงานธูปเก่าแก่ในเกียวโตซึ่งเป็นการวางขายอย่างเป็นทางการครั้งแรกในไทยอีกด้วย ตัวกลิ่นธูปจะออกแนว Woody และ Spicy ซึ่งจะช่วย Grounding ให้รู้สึกสงบได้ดีมากครับ
แม้ว่าการกลับมาคราวนี้ของ Aesop สินค้าจะค่อนข้างครบมากๆแล้ว แต่ก็ยังไม่ 100% นะครับ เนื่องจากผลิตภัณฑ์บางตัวก็เดินทางมาไม่ถึงประเทศไทย และบางรายการก็ยังอยู่ในขั้นตอนขอหมายเลขอย. ถ้าอยากดูของแบบครบ 100% อาจจะต้องให้เวลาอีกนิด ก็จะมีครบแน่นอนครับ เพราะหลังจากนี้ทางแบรนด์ก็มีแพลนที่จะขยายสาขาออกไปอีกทั้ง Online และ Offline แต่จะเป็นที่ไหนบ้างก็ต้องติดตามกันต่อไปครับ
Aesop Thonglor Signature Store